วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

วิธีเลือกเสื่อโยคะ เสื่อโยคะ Tpe / 2




 ในเรื่องนี้หมายความว่าผู้สำเร็จวิชชาในทางนี้ เมื่อได้จับต้องของสิ่งใดสิ่งหนึ่งสามารถทราบเหตุการณ์อันเกี่ยวข้องกับสิ่งของเหล่านั้นทันที เช่นถ้าไปได้ผ้าเก่าๆ มาผืนหนึ่งพอจับเข้าก็บอกได้ว่ามาจากไหน ใครเป็นผู้ใช้ คนที่เคยใช้ผ้านั้นเป็นคนอย่างไร มีเรื่องราวเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง ในเรื่องนี้ก็อธิบายได้ด้วยเรื่องกระแสความคิดนั้นเอง  คือเมื่อเราเชื่อว่ากระแสความคิดของคนไปเที่ยวเกี่ยวเกาะอยู่ทุกหนทุกแห่งแล้ว ก็ย่อมไปติดอยู่กับของเหล่านั้น ผู้มืความสามารถในทางนี้เมื่อถูกต้องเข้าก็แปลกระแสเหล่านั้นออกได้สำหรับคำทำนายโดยวิธีจับต้องนี้รกหัดตายตัว คนหนึ่งๆ อาจแสวงหาวิธีรกหัดของตัวอย่างหนึ่งได้  เสื่อโยคะราคาถูก และเป็นการรกหัดที่ทำได้คนเดียวและไม่ว่าใครอาจทดลองดูได้เสมอ เพราะไม่เกิดอันตรายเลย วิธี'ที่ใช้'หัดกันโดยมากนั้น คือเอาของอะไรสิ่งหนึ่งที่แปลกๆ นั่งอยู่เงียบๆ คนเดียวแล้วเอามือแตะที่ของนั้นอย่างเดียว ส่วนของที่ใข้นั้นในชั้นแรกควรใช้ของที่ตนเองรู้จักว่ามาจากไหน เป็นของใคร แล้วนึกรวบรวมความจำขึ้นมา เข้าทำนองที่ว่าจะสอนให้เด็กเดินต้องจูงไปก่อน ครั้นแล้วจึงค่อยแสวงหาของที่ตนจำได้ลาง ๆ ในที่สุดใข้ของที่ไม่รู้จักเลยว่ามาจากไหนในชั้นต้นภาพที่แลเห็นอาจจะยุ่งๆ แต่ลงท้ายภาพนั้นจะสว่างขึ้นการรกฝนย่อมให้ผลดีเกินกว่าที่จะนึกฝันเสมอ ผู้รกหัดควรอยู่คนเดียวหลับตาเพราะจำเป็นต้องไล่เจตสิกภายนอกไปให้หมดเมื่อเห็นว่ามืความสามารถในเรื่องสิ่งของมากพอและลองทำกับคนดูบ้างก็ได้  เสื่อโยคะtpe แต่จะต้องเป็นคนที่เลื่อมใสในวิขขานี้อย่างเดียวกัน และที่เขายอมให้ทำโดยดีวิธีทำคือจับมือไว้ แล้วก็ใข้กำลังดวงจิตเข่นเดียวกับจับของ เขาว่าจะลามารถรู้การที่ล่วงมาแล้ว หรือที่จะมาถึงผู้นั้นได้หลักวิชชาที่เขาสอนมือยู่ตังนี้ ข้าพเจ้าไม่เคยทดลองได้ผลจึงรับรองไม่ได้ว่า จะให้ความสำเร็จลักเพียงไร ข้าพเจ้าพบแต่ตำราเขาว่าไว้ ก็นำมาเล่าลู่กันฟังโดยสุจริตมิได้แต่งต่อเดิม ดีชั่วอย่างไรก็ขอให้บุญบาปตกอยู่แต่ผู้ตกแต่งตำราเดิมแต่ผู้เดียว

2. การทำนายโดยวิธีดูฃอกี่เป็นผาเรื่องนี้ในสมัยนี้ใช้ดูลูกแก้ว แต่ความเจริญลูกแก้วนั้นไม่จำเป็นจะใช้อะไรก็ได้สักแต่ว่าให้มีเงา แต่โบราณกาลมาใช้นํ้าในบ่อหรือหยดนํ้า หรือหยดเลือกอะไรก็ได้ ในหนังลือวิชชา 8 ประการ ข้าพเจ้าได้อธิบายไว้โดยพิสดารถึงวิธิดูลูกแก้ว เสื่อโยคะขนาดใหญ่ แต่ในที่นี้จะเขียนตามตำราของโยคื ซึ่งเขาไม่มีลูกแก้วจะดู จำต้องใช้นํ้าธรรมดา (เช่นเดียวกับผู้ทำนํ้ามนตํของเรา มองดูนํ้ามนต์เพื่อทำนายเหตุการณ์เช่นเดียวกับอาโปกสิณของเรานี่เอง)ในการฝึกหัดทำนายโดยวิธีถู?เองที่เป็นเงานั้น มีดังต่อใปนการถูนั้น ต้องถูให้'จริงๆ ไม่ใช่จ้องตาดู กล่าวคือต้องดูแต่เพียงพอสบายนัยน์ตา ไม่เพ่งเกินไป2.    สงบอารมณ์ ทำใจให้เป็นสมาธิแน่วแน่อยู่ในสิ่งที่แลดู ต้องปล่อยใจเรื่อยๆ ไม่รืบร้อน


 3.    เมื่อเป็นการแน่นอนว่าใจสงบจริงแล้ว และทำการฉกฝนเพียงพอจริงๆ ก็จะได้เห็นจุดอะไรจุดหนึ่งและเส้นอื่นๆ เป็นหมอกควัน ซึ่งเป็นอันว่าย่างขึ้นสู่ขั้นสำเร็จ* เมื่อเห็นหบอกควันแล้ว ก็ให้ระลึกถึงใครคนหนึ่งที่เราต้องการทราบเขาว่าจะเห็นหน้าขึ้นมาทันที พร้อมทั้งปรากฏสถานที่และการกระทำของคนนั้นๆ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต สุดแต่ว่าเราจะต้องการทราบอย่างไหน  

3. ทิพยจักษุที่แท้จริงทิพยจักษุอันแท้จริงนั้น คือการแลเห็นโดยมิต้องจับต้องหริออาศัยลูกแก้วอะไรเลย เรื่องนี้ได้แต่การละกดตัวเองให้หลับ ซึ่งข้าพเจ้าได้พูดถึงในหนังสือวิชชา 8 ประการเหมือนกัน แต่ในหนังสือเล่มนั้นข้าพเจ้าไม่ได้อธิบาย เพราะไม่กล้าพอจึงอยากจะลองทำตนเป็นคนกล้าอธิบายไว้ในที่นี้โดยย่อๆ บ้างที่สะกดตัวให้หลับนั้นใม่ใท้หบายความว่าจะต้องหลับอย่างละเมอเพ้อพ้นที่จริงเพียงแต่ตั้งใจให้แน่วแน่เป็นสมาธิ จนไม่มือารมณ์ภายนอกมากลํ้ากลาย เลยกลายเป็นเถึอบจะหลับ แตกยังพูดได้ตอบปัญหา'ได้อย่างดี ๆ ลัทธิโยคีเขาลอนว่า เสื่อโยคะยางพารา เรื่องนี้ก็ไม่น่ากลัวอันตราย เพราะไม่มีอะไรนอกจากสมาธิล้างดวงจิตให้บริลุทธิ๋จากอารมณ์ทั้งหลาย จนดวงจิตปลอดโปร่งผ่องใสไม่มือะไรเกี่ยวข้อง ผู้ที่ทำทิพยจักษุโดยวิธินี้ให้สำเร็จได้ เขาว่าจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการศึกษามากพอ และเป็นผู้ฝักใฝ่เลื่อมใสในทางศาลนา มีศีลธรรมอันดี มีดวงจิตบริสุทธิ้ ไม่คิดประทุษร้ายใครวิธีที่ถูกต้องมีอยู่วิธีเดียว คือ ทำใจให้เป็นสมาธิ เราอาจจะเลือกเวลาใดเวลาหนึ่งได้ทุกวัน ซึ่งเป็นเวลาที่เชื่อแน่ว่าจะไม่ถูกรบกวน เขาว่าเวลากลางวันดีกว่ากลางคืน เพราะเหตุไรไม่ทราบ เริ่มต้นให้ใช้เวลาเพึยงสองลามนาที ขับไล่อารมณ์ภายนอกให้ออกไปให้หมด ทำใจให้บริลุทธิ่ดุจผ้าขาวที่ปราศจากราคื ยางพารา รักษาหัวใจในสภาพอันนี้ไว้ให้นานที่สุดที่จะนานได้ คนที่ทำเข่นนี้ย่อมเป็นเหมีอนหนึ่งคนหูหนวกตาบอด มองไม่เห็นหรือไม่ได้ยินอะไรจากภายนอกที่ไม่ต้องการฟังเพราะฉะนั้นจงเป็นประหนึ่งว่าหลับแต่ว่าหลับไม่ได้ เพราะดวงจิตยังทำงานได้ดี จะต้องการนึกถึงเรื่องอะไรเพื่อให้เห็นด้วยทิพยจักษุก็นึกได้ ใครถามปัญหาอะไรก็ตอบได้ถูกต้อง ฉะนั้นจะเรืยกว่าหลับหรือไม่หลับก็ไม่ได้ทั้งสองอย่างเซาสอนต่อใบว่า ถ้าในขณะที่ทำเข่นนี้มีภาพอะไรมาปรากฏแก่ตาในทันทีทันใดพึงเข้าใจว่านั้นไม่ใช่ทิพยจักษุ เป็นความฝันอย่างธรรมดาถ้าหากว่าทิพยจักษุเกิดแล้วภาพที่ปรากฏแก่ดวงตาในเวลาหลับอยู่ จะต้องเป็นภาพที่ดวงจิตต้องการ ในชั้นแรกจะเห็นมัวๆ เล่นโยคะ  ลางๆ ลงท้ายสิ่งที่มัวก็จะค่อยกระจ่างและเห็นภาพที่ต้องการขัดขึ้นทุกที อย่างไรก็ดี หลักสำคัญอยู่ในเรื่องบังคับใจตนให้ห่างจากอารมณ์ทั้งหลายให้เหลืออยู่แต่สิ่งที่ต้องการคิดถึงหรือไม่มีอะไรเหลือเลยดวงจิตอยู่ว่างเปล่า ซึ่งเป็นของทำได้ยากแต่เขาว่าหัดทำไปก็ได้เข้าเอง


เสื่อโยคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น